ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง กทม. 2569 | กฎหมายเลี้ยงหมาแมวใหม่
กฎหมายเลี้ยงสัตว์ใหม่ใน กทม. ปี 2569
เตรียมพร้อม! กทม. ออกกฎหมายใหม่บังคับเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องขึ้นทะเบียน เริ่ม 10 ม.ค. 2569 เช็กเงื่อนไข เลี้ยงหมาแมวต้องรู้อะไรบ้าง
รู้หรือยัง🐶 กทม. เตรียมบังคับใช้ข้อบัญญัติใหม่ "ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์" เริ่ม 10 มกราคม 2569 นี้ เจ้าของหมาแมวทุกคนต้องขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงให้ถูกต้อง! บทความนี้สรุปทุกข้อที่ควรรู้: ใครต้องขึ้นทะเบียน🐶 ทำที่ไหน🐶 มีค่าธรรมเนียมไหม🐶 หากฝ่าฝืนจะมีโทษอย่างไร มาอ่านให้เข้าใจก่อนโดนปรับกันเถอะ
สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็น หมา พันธุ์เล็ก พันธุ์ใหญ่ แมวสายพันธุ์ไหนก็ตาม หากเลี้ยงในบ้านหรือคอนโด มีความจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ กฎหมายเลี้ยงหมาในบ้าน และ ข้อบังคับใหม่ของ กทม. ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 นี้
ไม่เพียงแต่เรื่องของความสะอาดหรือเสียงรบกวน แต่กฎหมายฉบับใหม่นี้ยังระบุชัดว่า ต้องทำ "ทะเบียนหมา กทม." หรือ "ทะเบียนแมว กทม." เพื่อควบคุมโรค และดูแลความปลอดภัยของชุมชน หากใครยังไม่เคยขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงมาก่อน บทความนี้จะพาไปรู้ขั้นตอน วิธีลงทะเบียน พร้อมคำแนะนำแบบละเอียด
สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในข้อกำหนด
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว เม่นแคระ ฯลฯ
- สัตว์ปีก เช่น นก ฯลฯ
- สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา ฯลฯ
- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น ซาลาแมนเดอร์ กบ ฯลฯ
- สัตว์เลื้อยคลาน เช่น กิ้งก่า ฯลฯ
- สัตว์มีพิษหรือสัตว์ดุร้าย เช่น งู ฯลฯ
การเลี้ยงสัตว์ตามพื้นที่
- เลี้ยงนก
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ เช่น วัว ควาย ม้า กวาง หรือสัตว์ที่มีขนาดเดียวกัน เลี้ยงได้ 1 ตัว ขนาดพื้นที่ 50 ตร.วา
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น แพะ แกะ หมู ม้าแคระ หรือสัตว์ที่มีขนาดเดียวกัน เลี้ยงได้ 3 ตัว ขนาดพื้นที่ 50 ตร.วา
- ไก่ เป็ด ห่าน 1 ตัว ขนาดพื้นที่ 4 ตร.ม.
- นกขนาดใหญ่ 1 ตัว เช่น นกกระจอกเทศ หรือนกที่มีขนาดเดียวกัน ขนาดพื้นที่ 50 ตร.ม.
- นกขนาดเล็ก 5 ตัว ขนาดพื้นที่ 1 ตร.ม.
- ห้ามเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ ยกเว้นเพื่อรักษาพยาบาล การย้ายที่อยู่ของเจ้าของ การปล่อยสัตว์เพื่อการกุศล/จารีตประเพณี
ข้อกำหนดจำนวนสุนัขและแมวตามพื้นที่
คอนโดหรือห้องเช่า
- ห้องเช่าหรือคอนโด ขนาดไม่เกิน 20-80 ตร.ม. : เลี้ยงได้ 1 ตัว
- ห้องเช่าหรือคอนโด ขนาด 80 ตร.ม. ขึ้นไป : เลี้ยงได้สูงสุด 2 ตัว
เนื้อที่ที่ดิน
- เนื้อที่ที่ดินขนาดไม่เกิน 20 ตร.วา : เลี้ยงได้ 2 ตัว
- เนื้อที่ที่ดินขนาดไม่เกิน 50 ตร.วา : เลี้ยงได้ 3 ตัว
- เนื้อที่ที่ดินขนาดไม่เกิน 100 ตร.วา : เลี้ยงได้ 4 ตัว
- เนื้อที่ที่ดินขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไป : เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว
- สัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัว ม้า เป็ด ไก่ : ต้องมีพื้นที่ตามที่กำหนด
ข้อกำหนดการเลี้ยงสุนัขและแมว
เจ้าของสุนัขและแมวจะต้องนำสัตว์ไปฝังไมโครชิปที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์เอกชนที่รับฝังไมโครชิป จดทะเบียนและออกบัตรประจำตัวภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่สัตว์เกิด หรือภายใน 30 วัน นับตั้งแต่นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ จดทะเบียนด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปช่วยจดทะเบียนแทน โดยใช้เอกสารดังนี้
เอกสารจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง
- บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของสัตว์
- ทะเบียนบ้านที่สัตว์อาศัย
- ใบรับรอง (คสส.1)
- หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการผ่าตัดทำหมันจากสัตวแพทย์ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- หนังสือยินยอมจากผู้เช่า กรณีเป็นผู้เช่า
สถานที่จดทะเบียนสัตว์เลี้ยง
เจ้าของสัตว์นำเอกสารไปยื่นคำร้องกับเจ้าหน้าที่ ณ หน่วยงานที่รับจดทะเบียน สํานักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สํานักอนามัย สํานักงานเขต หรือสถานที่ที่กรุงเทพมหานครกําหนด ได้แก่ คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 8 แห่ง ดังนี้
- กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง โทร. 0 2248 7417
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.1 สี่พระยา เขตบางรัก โทร. 0 2236 4055 ต่อ 213
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.2 มีนบุรี เขตมีนบุรี โทร. 0 2914 5822
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา โทร. 0 2392 9278
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.4 บางเขน เขตจตุจักร โทร. 0 2579 1342
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.5 วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ โทร. 0 2472 5895 ต่อ 109
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.6 ช่วงนุชเนตร เขตจอมทอง โทร. 0 2476 6493 ต่อ 1104
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย โทร. 0 2411 2432
วิธีปฏิบัติเมื่อนำสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน
- ควบคุมสัตว์เลี้ยงของตัวเองไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนกับคนอื่น
- เจ้าของต้องเก็บสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ของสัตว์ในที่สาธารณะ
- หากนำสัตว์ออกนอกสถานที่ต้องใช้สายจูงหรือกรง
สุนัขควบคุมพิเศษ
ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงอยู่ในกลุ่มสุนัขควบคุมพิเศษ คือ พิตบูลเทอร์เรีย, บูลเทอร์เรีย, สแตฟฟอร์ดเชอร์ บูลเทอร์เรีย, ร็อตไวเลอร์ และฟิล่า บราซิเลียโร รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปลี่ยนเป็นสุนัขควบคุมพิเศษด้วย หากฝ่าฝืนจะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535
เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 ซม. ตลอดเวลา
ข้อกำหนดอื่น ๆ
หากมีการเปลี่ยนเจ้าของสุนัขและแมว ให้เจ้าของคนใหม่นำเอกสารไปยื่นแจ้งลงทะเบียนใหม่ด้วย
หากมีการย้ายที่อยู่ หรือบัตรประจำตัวสุนัขและแมวหาย โดนทำลาย หรือชำรุด รวมถึงสุนัขและแมวตาย ให้เจ้าของไปแจ้งต่อหน่วยงานที่รับจดทะเบียนภายใน 30 วัน
ในกรณีสุนัขหรือแมวหาย ให้เจ้าของไปแจ้งต่อหน่วยงานที่รับจดทะเบียนภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบ หากเจอสัตว์เลี้ยงสูญหายแล้วให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วัน
หากเลี้ยงสัตว์เกินจำนวนตามที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และเลี้ยงมาก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายในวันที่ 10 มกราคม 2569 ในระหว่างนี้ให้เจ้าของไปแจ้งขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงไว้ที่สำนักงานเขตของ กทม. ว่าเลี้ยงเอาไว้กี่ตัว และสามารถเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดที่เคยเลี้ยงมาจนกว่าจะหมดอายุขัย ไม่ต้องนำไปปล่อย และดูแลไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้านหรือชุมชน นอกจากนั้นอย่าลืมนำสัตว์เลี้ยงไปฝังไมโครชิป สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก 10-20 ตัว สามารถติดต่อที่คลินิกสัตวแพทย์ หรือสำนักงานเขต กทม. ให้เข้าไปฝังไมโครชิปที่บ้านได้
ทั้งนี้ หากใครมีข้อสงสัยสามารถอ่านประกาศฉบับเต็มได้จาก สรุปสาระสําคัญข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 หรือติดต่อสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข ที่เบอร์ 0 2245 3311 หรือศูนย์ข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน เบอร์ 1111
สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็น หมา พันธุ์เล็ก พันธุ์ใหญ่ แมวสายพันธุ์ไหนก็ตาม หากเลี้ยงในบ้านหรือคอนโด มีความจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ กฎหมายเลี้ยงหมาในบ้าน และ ข้อบังคับใหม่ของ กทม. ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 นี้
ไม่เพียงแต่เรื่องของความสะอาดหรือเสียงรบกวน แต่กฎหมายฉบับใหม่นี้ยังระบุชัดว่า ต้องทำ "ทะเบียนหมา กทม." หรือ "ทะเบียนแมว กทม." เพื่อควบคุมโรค และดูแลความปลอดภัยของชุมชน หากใครยังไม่เคยขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงมาก่อน บทความนี้จะพาไปรู้ขั้นตอน วิธีลงทะเบียน พร้อมคำแนะนำแบบละเอียด
อย่าลืม! สำหรับใครที่เลี้ยงน้องหมา น้องแมว อย่าลืมพาไป ฝังไมโครชิป และ ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากไม่ดำเนินการ อาจมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหา สัตว์จรจัด, ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในชุมชน และมีฐานข้อมูลไว้ใช้ควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตด้วยนะ
ที่มา kapook.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร, ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน, สรุปสาระสําคัญข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567, สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข และ bangkok_bma