เอาแล้ว !! มหิดล สั่งสอบ น.ศ.แพทย์วางยาหมา โซเชียลชี้เข้าข่ายฆาตรกรต่อเนื่อง

     
จากข่าว นักศึกษาแพทย์วางยาฆ่าหมา หวังเอาเงินประกัน พบทำมาแล้วหลายตัว !! คนรักหมาสะเทือนใจอย่างถึงที่สุดล่าสุด (8 กันยายน 2560) สพ.ญ. อนงค์นาถ สุตธรรม แพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท จ.นครราชสีมา ได้เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า จากผลชันสูตรพบยาจำนวนมากในกระเพาะอาหารสุนัข คาดว่าสุนัขได้รับยาเกินขนาด โดยพบยา 2 ชนิด มีลักษณะทรงรี สีเหลืองและสีชมพู ซึ่งสีชมพูพบตกอยู่ในกระเป๋าที่ใส่สุนัข จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาลดความดันที่ใช้ในคน ส่วนเม็ดสีเหลืองยังไม่ทราบชนิดของยา

       
หลังจากแพทย์ชันสูตรเสร็จ เจ้าของสุนัขได้โทร. มาขอร้องให้แพทย์ช่วยแก้คำชันสูตรเปลี่ยนมาเป็นไม่พบสาเหตุการตาย แต่ตนไม่ได้แก้ตามคำร้องขอ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ สำหรับยาที่พบทางกรมปศุสัตว์และโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพฯ ได้ติดต่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว เพื่อสอบสวนว่าเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ อีกทั้งได้เตรียมนำยาไปฝากไว้ที่ สน.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะนี้รอเจ้าทุกข์เข้าไปยื่นเรื่อง หลังจากดำเนินการยื่นเรื่องที่สัตวแพทยสภาแล้ว

[adsense]5879063568[/adsense]
ขณะที่ น.สพ.ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยอมรับว่า ทางมหาวิทยาลัยทราบเรื่องนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการ อีกทั้งยังต้องให้ความเป็นธรรมกับนักศึกษาคนนี้ด้วยว่า มีเจตนาตามที่ปรากฏเป็นข่าวหรือไม่ ขอให้รอผลการสอบสวน และหากกระทำความผิดจริง ทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก A CALL for Animal Rights Thailand ได้มีการโพสต์ข้อความเพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบ และจัดการนักศึกษาแพทย์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยระบุว่า...

1. มหาวิทยาลัยควรเร่งตรวจสอบพฤติกรรม และไม่ควรให้บุคคลเช่นนี้ผ่านออกมาเป็นแพทย์ได้เด็ดขาด อายุเท่านี้ยังทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ ต่อไปจะเป็นภัยอันตรายแค่ไหน ครั้งนี้สัตว์ต่อไปอาจเป็นคน ทั้งยังไม่ใช่การกระทำครั้งแรก มีการเจตนาปลอมแปลงเอกสาร จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่เจตนา ไม่ได้

2. มีงานวิจัยออกมามากมายว่าพวกฆาตกรต่อเนื่องก็มีพฤติกรรมแบบนี้ ทำร้ายและฆ่าสัตว์เล็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อย่างไร้สำนึกไร้ความรู้สึกมาก่อน และเปลี่ยนเป็นฆ่าคนต่อเนื่องในท้ายที่สุด

3. โรงพยาบาลสัตว์ทั้งสองแห่งรวมทั้งฝ่ายขนส่ง ขอให้ร่วมกันดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะหากปล่อยไปอาจจะก่อเหตุซ้ำ อีกกี่ชีวิตบริสุทธิ์ที่ต้องตายอย่างทรมาน และเหยื่ออีกกี่คนที่ต้องเสียรู้ให้กับคนที่ใช้สมองไปในทางที่ผิด


     

     


ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก A CALL for Animal Rights Thailand,เฟซบุ๊ก Jakkarin Riangngoen