ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด Facebook Youtube Twitter Google+
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
  • หน้าแรก
  • ที่พักหมาพักได้
  • ข่าว
  • วิธีดูแล
  • รู้ทันโรค
  • ภาพน่ารัก
  • สินค้าหมาแมว
  • ค้นหา
  • บอร์ด
  • ติดต่อโฆษณา
ที่พักหมาแมวพักได้ ที่พักสัตว์เลี้ยงพักได้ อัพเดทปี 2022 › Dog_แนะนำ เกี่ยวกับหมาหมา › รู้ทันโรค สัตว์เลี้ยง »โรคพยาธิเม็ดเลือด
โพสต์เรื่องใหม่
กลับไป

โรคพยาธิเม็ดเลือด

โพสต์โดย: admin | เมื่อ: 2011-1-15 11:49| เปิดอ่าน: 6804| ความคิดเห็น: 0

admin โพสต์ 2011-1-15 11:49:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
เสื้อหมา เสื้อแมว รถเข็นหมา รถเข็นแมว





เมื่อน้องหมาเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือด! (โลกสัตว์เลี้ยง)

เชื่อว่าในหมู่คนเลี้ยงน้องหมาคงเคยได้ยินเรื่องโรคพยาธิเม็ดเลือดมาพอสมควร พยาธิเม็ดเลือจัดเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ซึ่งในสุนัขมีทั้งหมด 3 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ในเม็ดเลือดแตกต่างกันไป แต่วันนี้จะขอกล่าวถึงพยาธิเม็ดเลือดที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งนั่นคือ ชนิด Ehrlichia canis หรือเรียกกันย่อๆ ว่า E. Canis พยาธิเม็ดเลือดชนิดนี้พบได้ในสุนัขทุกเพศ ทุกพันธุ์ ทุกอายุ โดยมีพาหะนำโรคคือ เห็บ นั่นเอง

ทั้งนี้ หลายท่านก็แอบสงสัยว่าน้องหมาของตัวเองไม่มีเห็บเลย แต่ทำไมถึงเป็นโรคนี้ได้ อาจเพราะมีจำนวนไม่มากพอ เราจึงไม่เห็นมากกว่า หรืออาจจะเป็นช่วงที่เห็บลงจากตัวน้องหมาไปลอกคราบ หรือลงไปวางไข่พอดี ทำหให้เราไม่เจอเห็บบนตัวสุนัขก็เป็นได้ และการเป็นโรคพยาธิในเม็ดเลือดนั้น ไม่จำเป็นต้องมีเห็บเยอะหรือหลายๆ ตัว แม้มีแค่ตัวเดียว แต่ถ้าตัวที่มีกัดมีพยาธิเม็ดเลือดอยู่ ก็สามารถเป็นโรคได้แล้ว

เมื่อเห็บดูดเลือดจากสุนัขที่มีเชื้อ E. Canis เข้าไป เชื้อจะเข้ามาอยู่ในตัวเห็บ จากนั้นถูกปล่อยออกไปกับน้ำลายของเห็บขณะที่กินเลือดสุนัขอีกตัว เมื่อเข้าร่างกายสุนัขแล้ว พยาธิจะอาศัยอยู่ในเม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ และลิมโฟไซต์ และมีระยะฟักตัว 8-20 วัน ก่อนจะปรากฎอาการ

อาการ

สำหรับอาการที่พบทั่วไปมี 2 ระยะ คือ แบบเฉียบพลัน (1-4 สัปดาห์) สุนัขจะมีไข้ขึ้นๆ ลงๆ ซึม เบื่ออาหาร ต่อมน้ำเหลืองโต ม้ามโต บางตัวพบว่าเลือดกำเดาไหลข้างเดียว จุดเลือดออกตามตัว จากนั้นสุนัขที่มีภูมิคุ้มกันดีจะสามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันมาทำลายเชื้อได้

แต่ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดีพอ เชื้อพยาธิเม็ดเลือดจะพัฒนาเข้าสู่อาการในแบบเรื้อรัง (40-120 วัน) ซึ่งจะมีอาการตั้งแต่ ซึม อ่อนแรง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เยื่อเมือกซีด มีไข้สูง เลือดกำเดาไหลมาก ปัสสาวะเป็นเลือด หายใจลำบาก จนถึงไขกระดูกทำงานบกพร่อง ภูมิคุ้มกันทำลายกันเอง ทำให้โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ ไตวาย ตับอักเสบ ข้ออักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และนำไปสู่การเสียชีวิตได้

การรักษาและวิธีการป้องกัน

วิธีการรักษาส่วนใหญ่คือ การให้ยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดและการรักษาตามอาการ โดยจะต้องรักษาต่อเนื่อง อย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ ร่วมกับตรงจเลือดเพื่อประเมิณค่าเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดเป็นระยะ และต้องติดตามผลต่ออีก 6 เดือน ถึง 1 ปี

การป้องกันพยาธิเม็ดเลือดนั้นจะต้องอาศัยการเอาใจใส่ดูแลจากเจ้าของ โดยการป้องกันการติดเห็บ ปัจจุบันมีหลายวิธีและหลายผลิตภัณฑ์มาให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น ตามลักษณะพื้นที่อยู่อาศัยและลักษณะการเลี้ยง เป็นต้น นอกจากนี้ควรตรวจเลือดน้องหมาอย่างน้อยปีละครั้งด้วยค่ะ

    

ขอขอบคุณข้อมูลจาก



www.dogthailand.net
dogsick.jpg
ตอบกลับ

ใช้ไอเท็ม รายงาน

  • ดันกระทู้
  • ปักหมุด
  • ล็อคกระทู้
  • คืนกระทู้
  • การ์ดสีสัน
  • การ์ดล่องหน
กลับไป
โหมดขั้นสูง
B Color Image Link Quote Code Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต


สารบัญเว็บไทย คำค้นยอดฮิต เพลงใหม่ ดารา คลิป Picpost โปรแกรมแต่งรูปสัตว์เลี้ยง วิธีเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เกมส์สัตว์เลี้ยง ดูดวงสัตว์เลี้ยง สูตรอาหารสัตว์เลี้ยง ประวัติสายพันธุ์สุนัข โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงเปิด24ชม. โรคสัตว์เลี้ยง รับฝากเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ร้านอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าได้ โรงแรมสุนัขพักได้ ทั่วประเทศ ติดต่อโฆษณา แจ้งปัญหาการใช้งาน รูปแบบข้อความล้วน ใช้งานบนสมาร์ทโฟน สถิติเว็บไซต์
ติดต่อทีมงาน dogthailand.net
admin@dogthailand.net Tel.0909757272 Facebook.com/dogthailand Twitter.com/dogthailand ติดต่อโฆษณา

รายชื่อผู้ถูกระงับบัญชี|โทรศัพท์มือถือ|dogthailand.net

เว็บแนะนำที่พักสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ ทั่วไทย อัพเดทใหม่ๆ ตั้งแต่แบบรีสอร์ท โฮมสเตย์ ที่พักแบบธรรมชาติ จนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมแนะนำที่ท่องเที่ยว ที่ให้น้องหมาและแมวเข้าไปได้อีกด้วย

GMT+7, 2022-7-4 10:11 , Processed in 0.064218 second(s), 18 queries .

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้ Share To Facebook Share To Twitter Share To Google+ Share To ...